วันจันทร์ที่ 26 ตุลาคม พ.ศ. 2558

Building Focus : สร้าง Deck หลักมาไต่ Rank (Part 1)

สวัสดีครับผู้อ่านทุกท่าน  ต่อเนื่องจาก entry ที่แล้ว [link]

  Entry นี้ผมอยากจะแชร์แนวทางพื้นฐานในการจัด Deck สำหรับผู้เล่นใหม่ และการตั้ง focus ในการสร้างเดค (Building focus) ซึ่งหมายถึงการวางเป้าหมายในการเก็บสะสมการ์ด และการสร้างการ์ด (Craft) ไปในแนวทางใดแนวทางหนึ่ง เพื่อให้ผู้เล่นใหม่สามารถสร้างเดคที่พอจะสามารถต่อกรกับผู้เล่นเก่าในการไต่แรงค์ได้อย่างไม่ยากลำบากจนเกินไป

Why Rank ? - ไต่แล้วไปไหน
   เนื่องจาก HS ได้เพิ่มระบบหีบโบนัสหลังจบ season เข้ามา ซึ่งของรางวัลที่ผู้เล่นจะได้รับขึ้นอยู่กับระดับ rank สูงสุดที่ผู้เล่นเคยไปถึงใน season นั้น (สมมุติผู้เล่นเคยไปถึง rank 5 แต่แพ้รัวๆ จนวันรีเซต season ตกมาอยู่ rank 11 หีบรางวัลที่ได้จะเป็นหีบของ rank 5) โดยรายการรางวัลของหีบท้ายซีซัน สามารถดูได้จาก [link] ซึ่งโบนัสจากการไต่แรงค์ โดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่อไปถึง Landmark สำคัญอย่าง rank 9 หรือ rank 5 นับได้ว่าคุ้มค่ากับความยากลำบาก ด้วยเหตุนี้ คหสต.จึงเห็นว่า การสร้างเดคเพื่อไต่ rank จึงเป็นเรื่องที่ค่อนข้างสำคัญในการสร้างเนื้อสร้างตัวในเกมนี้

  การให้รางวัลเช่นนี้ได้ดึงดูดผู้เล่นจำนวนมากเข้าสู่ Rank mode ทำให้การไต่แรงค์เป็นงานที่โหดหินกว่าแต่ก่อนพอสมควร 
ความยากที่สูงขึ้นของการไต่แรงค์ ส่งผลให้ผู้เล่นใหม่จำเป็นที่จะต้องสร้างเดคที่มีความแข็งแกร่งในระดับที่พอจะต่อกรกับผู้เล่นเก่าได้โดยเร็วซึ่งอาจใช้เดคหลักเพียง 1-2 เดคก็อาจเพียงพอ ทั้งนี้สิ่งสำคัญที่ผู้เล่นใหม่จะต้องกระทำคือการเสริมสร้างความแข็งแกร่งให้กับเดคหลัก 1-2 เดคนั้นไปเรื่อยๆ ทั้งนี้อาจแบ่งขั้นตอนการเสริมแกร่งออกเป็น 3 ขั้นตอนใหญ่ๆ

1. หา Common หรือ Rare ที่มี Stat ดี (เช่น ร่าย 2 ได้ 2/3 หรือ 3/2 , ร่าย 4 ได้ 4/5) และมีความสามารถพิเศษ มาใช้

 >จะสังเกตได้ว่า Basic Card ที่เกมให้มาในตอนแรก จะมี Stat ที่โอเค แต่มักจะเป็น "การ์ดเหลือง" คือ มีแต่พลัง ไม่มีความสามารถพิเศษ แต่เมื่อเล่นไปเรื่อยๆ เราจะเริ่มพบเจอการ์ดที่มี Stat เท่ากัน แต่มี ความสามารถ แถมมาด้วย 

เช่น Knife Juggler ซึ่งมี Stat ร่าย 2 ได้ 3/2 เท่ากับ Bloodfen Raptor แต่ได้ ความสามารถ สุดโหดอย่างสุ่มยิง 1 Dmg ใส่คู่ต่อสู้ เมือมีการร่าย Minion 



หรือ อีกตัวอย่างหนึ่งคือ Mechanical Yeti ซึ่งมี Stat ร่าย 4 ได้ 4/5 เท่ากับ Chillwind Yeti แต่มี ความสามารถเมื่อถูกทำลาย (Deathrattle) แถม Spare part (การ์ด Spell ร่าย 1 มี ความสามารถเล็กๆน้อยๆ เช่น +1 HP) ขึ้นมือเราและฝ่ายตรงข้าม
 


        นอกจากนี้การเสริมแกร่งในขั้นตอนนี้อาจทำได้อีกแนวทางหนึ่งคือ เลือก Minion ที่อาจมี Stat ด้อยกว่า Basic card แต่มี ความสามารถที่รุนแรงกว่ามาก เช่น Minion ค่าร่าย 4 อาจเลือกใส่ Piloted Shredder ที่มี Stat ด้อยกว่า Chillwind Yeti แต่มีความสามารถ เมื่อตาย จะสุ่มเรียก Minion ค่าร่าย 2 เข้ามาในสนาม 1 ใบ ซึ่งอาจได้ตัว Stat โหดๆ (ที่ปกติไม่มีใครใส่เพราะถ้าร่ายมันจากมือ จะเกิดผลเสียที่รุนแรง) เช่น Mill house Manastorm (ร่าย 2 ได้ 4/4) หรืออาจได้ตัวนำความ ..ิบหาย อย่าง Doom Sayer (ร่าย 2 ได้ 0/7 มี ความสามารถ เมื่อเข้าเทิร์นเรา ถ้ามันอยู่ในสนาม ระเบิดมอนทั้งสนามทั้ง 2 ฝ่าย) 





2. หาการ์ดเฉพาะทางต่างๆ 

    >หลาย Deck ที่เราอาจได้ยินชื่อกันบ่อยๆ เช่น Face Hunter , Mech Mage , Uther and The Chamber of secret ฯลฯ ซึ่งจะพบได้ทั่วไปเมื่อไต่ Rank ขึ้นมาถึงระดับหนึ่ง หากสังเกตจะพบว่า Deck พวกนี้จะมีการ์ดเฉพาะทางที่เป็น Rare , Epic หรือ การ์ดจาก Adventure ตัวอย่างเช่น 

>Mad Scientist ขาประจำของ Deck Hunter และ Mage เกือบทุกสาย ซึ่งมี ความสามารถในการดึง Secret 1 ใบจาก Deck มาติด เมื่อมันตาย ซึ่งหาได้จาก Curse of Naxxarmass Adventure 
>Goblin Blastmage ตัวโหดสัสรัสเซีย ของ Deck Mech Mage มี ความสามารถเมื่อลงมาในสนามยิง 1 Dmg แบบสุ่ม 4 ครั้งใส่ฝ่ายตรงข้าม ถ้าในสนามเรามี Minion ประเภท Mech เปิดหาได้จากซอง GVG Pack
>Mysterious Challenger แกนหลักของ Deck พ่อพวงมาลัย (Paladin Secret) หาได้จาก TGT Pack
ฯลฯ

 ซึ่งการ์ดเฉพาะทางเหล่านี้จะส่งผลให้ Deck ไต่แรงค์พวกนี้ มีลักษณะการทำเกมที่แตกต่างออกไปจาก Basic Deck หรือ Deck ที่เพิ่งปรับแต่งในขั้นแรกอยู่ค่อนข้างมาก และมี Option ในการแก้เกมที่หลากหลายกว่า โดยการเล่น Combo ระหว่างการ์ดหลายใบ กล่าวคือการ์ดพวกนี้โดยส่วนใหญ่เน้นการเล่นคอมโบมากกว่า Stat หรือ Ability ติดตัวเพียวๆ อย่าง Taunt หรือ Charge (ลงมาไม่ติด ZZZ ตีได้เลย) นั่นเอง
  ทั้งนี้การ์ดเฉพาะทางเหล่านี้ควรหาอะไรมาใช้บ้าง สามารถหาดูได้จาก Deck list ที่เผยแพร่กันโดยทั่วไป เช่น ในเว็บ Hearthpwn หรือ Hearthstone top deck เป็นต้น

3. Find Complementary Factor - หนทางสู่ความสมบูรณ์แบบ 

  >ขั้นนี้คือการหาการ์ดระดับสูง อย่าง Epic หรือ Legendary ที่จะช่วยเติมเต็มให้ท่านสามารถยืนระยะสู้ในช่วงท้ายเกมได้ หรือในบางกรณี การ์ดระดับสูงพวกนี้คือแนวทางการปิดเกมของ Deck เลยทีเดียว 

ตัวอย่างเช่น Dr.Boom ซึ่งเป็น Legendary ที่ผมแนะนำว่าควรหามาใช้ให้เร็วที่สุดเท่าที่จะเร็วได้ (เมื่อผ่านการปรับแต่งในขั้นตอนที่ 1 และ 2 แล้ว) เนื่องจากเป็นทั้งตัวตั้งบอร์ดที่สร้างแรงกดดันได้สูงอย่างรวดเร็ว หรืออาจใช้เป็นตัวตอกตะปูปิดฝาโลงได้ในบางจังหวะ 
อีกตัวอย่างคือ Antonidus พ่อเฒ่า AHA! (โคตรเกลียดเสียงมันเลยบ่องตง) ที่เป็นเหมือนไพ่ตายสุดฮิตของ Mech Mage หรือ Tempo mage (Flame waker - Mage) การใส่ลุงแกใน Deck เป็นเหมือนไพ่ตายที่ช่วยให้เราสามารถปิดเกมได้ในกรณีที่บรรดาหุ่นกระป๋องไอร่อนแมน (Mech Mage) หรือ "หน้าไหม้" (Flame waker) ของเรายำเขาไม่ตายในช่วงต้นเกม และโดนดึงเกมยาว



   อย่างไรก็ตาม การปรับแต่งในขั้นตอนนี้ ถ้าไม่ทำบุญมหากุศล สร้างมหาวิหาร มาแต่ชาติปางก่อน เปิดได้ใบพวกนี้ ตั้งแต่แรกๆ (เปิดได้ Legendary ว่ายากแล้ว เปิดให้ได้ของใช้งานนั้นยากยิ่งกว่า) ก็จำเป็นที่จะต้องใช้ Dust มากถึง 1600 Dust ต่อ 1 ใบ จึงอาจยังไม่สามารถทำได้ในช่วงแรกๆ ด้วยเหตุนี้ การสะสม Dust จากการไต่ Rank และ การหมั่นย่อยการ์ดซ้ำ หรือการ์ดทอง (ย่อยแล้วจะได้ Dust มากกว่าปกติ) จึงเป็นเรื่องที่สำคัญมาก และสิ่งที่สำคัญอีกประการหนึ่งคือ การจัดลำดับความสำคัญการ Craft Legendary แต่ละใบ ตามประโยชน์ใช้สอย (โดยอาจดูแนวทางได้จากบทความของคุณ Yang แห่ง Murloc land ที่นี่ [Link]

   เพียงเท่านี้ท่านก็จะมี Deck ที่มีประสิทธิภาพเพียงพอที่จะใช้สำหรับไต่ Rank ในแต่ละ Season ได้อย่างไม่ยากลำบากแล้ว จากนั้นเมื่อท่านสะสม Gold และ Dust ได้มากเพียงพอ ก็อาจจะเริ่มการขยาย line ธุรกิจของท่านไปยังสาย Hero อื่นๆ ที่ปกติเอาไว้เก็บเควสประจำวัน ให้สามารถเก็บเควสได้ง่ายขึ้น หรือเอาไว้ใช้ไต่ Rank เมื่อ Meta Game (Deck ยอดนิยม) เปลี่ยนไป จน Deck หลักเดิมเริ่มใช้งานลำบาก

  ** ทั้งนี้ มีหลาย Deck ที่ผมเห็นว่าสามารถใช้ไต่ Rank ได้ในระดับหนึ่งและอาจไม่จำเป็นต้องใช้ Legendary ซึ่งผมจะได้รวมตัวอย่าง Deck ไว้ในอีก Entry หนึ่ง ตาม Request ของคุณ Grid Jumrernpruek**

            อย่างที่กล่าวไปใน Entry ที่แล้วว่า การเปิดซอง (Pack) ดูจะเป็นวิธีการที่คุ้มค่าที่สุดในการสะสมการ์ด เพื่อปรับแต่งในทั้ง 3 ขั้นตอน ข้างต้น อย่างไรก็ตาม การเปิดซองเพื่อสะสมการ์ดที่ผมเห็นว่ามีประสิทธิภาพสูงที่สุด คือการเน้นเปิดซองใดซองหนึ่งตามแนวทางการสร้างเดค (Building Focus) ที่เราตั้งไว้
        
ซึ่งใน Part 2 จะว่าด้วยเรื่อง Building Focus รูปแบบต่างๆ และแนวทางการสะสมการ์ด ตาม Focus นั้นๆ 

Picture Credit : http://www.hearthpwn.com

2 ความคิดเห็น:

  1. ความคิดเห็นนี้ถูกผู้เขียนลบ

    ตอบลบ
  2. บริการเปิดซองเปิดดันเจี้ยนราคาพิเศษแบบ VIP ถูก ได้ของชัว์ เครดิต เพียบบบ !!

    ที่ : https://www.facebook.com/hearthstoneVIP/

    Update Card Ungoro แบบ Real time https://goo.gl/QX9oEs

    Pre-Order Journey to Un’Goro 1455 บาท
    Welcome Bandle 165 บาท
    ปรับราคา 25/03/2017
    40pack 1455
    15pack 615
    7pack 310
    ONK 615
    LOE 615
    BRM 755
    Heroskin 310
    3wing 470
    2wing 310
    1wing 230
    2pack 100
    1 code pack 35


    ตอบลบ